ฮัลโหลววววออลลลลล หลังจากกลับมาจากเวียดนาม แน่นอนว่าจะต้องมีรีวิวเวียดนามแบบเจาะลึกแล้ว ขอเปิดอันนี้เป็นโพสต์แยกละกัน เพราะบอกเลยว่าทริปนี้ผ่านไปด้วยดีได้ด้วยการเตรียมการทุกอย่างไว้จริงๆ
ไลฟ์สไตล์การเที่ยวแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนชอบแบบ backpack หรือ walk in หาที่พัก แต่สำหรับฝนไม่ใช่เลย ค่อนข้างเป็นคนขี้กังวล คือถ้าให้ไปเที่ยวปลายทาง โดยที่ไม่รู้ว่าจะนอนที่ไหน หรือจะมีที่นอนหรือเปล่า เราโคตรไม่โอเค แม้บางที walk in อาจจะแพงกว่า แต่เราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้เลยอ่ะ ตอนนั้นไปมีเทศกาลอะไรในเมืองไหม คนจองเยอะหรือเปล่า แล้วต้องไปโรงแรมไหนถึงว่าง โอยย ปวดหัว แค่เดินทาง เตรียมแพลน พูดภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาไทยก็กังวลจะแย่ล่ะ ขอจองทุกอย่างไปแบบชัวร์ๆเลยล่ะกันเด้ออออ
วิธีการจองตั๋วเครื่องบิน
[youtube https://www.youtube.com/watch?v=GIQn8pab8Vc?start=1.27&w=560&h=315]
ในเมื่อเราเชื่อมั่นว่า I can flyyyyyy ก็เตรียมจองตั๋วเครื่องบินก่อนเถอะ ก่อนที่จะจอง ก็สมัครสมาชิก Traveloka อะไรให้เรียบร้อยนะฮะะะ เข้าเว็บ https://www.traveloka.com หรือจะเข้าผ่านแอพก็ได้ การจองจะคล้ายๆกัน แต่หน้าตาอาจแตกต่างกันสักนิดดดบนคอมพิวเตอร์และมือถือนะ สมัครเสร็จเข้าเว็บ เลือกภาษา และสกุลเงิน
ใส่เที่ยวบินที่เราต้องการ ซึ่งเราสามารถจองแบบเที่ยวเดียว หรือไป – กลับก็ได้ ใส่จำนวนผู้โดยสาร เลือกชั้นโดยสารและกดค้นหาเที่ยวบินโลด
สิ่งดีงามในหน้าถัดไปนี่ก็คือ เราสามารถ filter ได้เยอะมากกกกก สมมติการเดินทางเราค่อนข้างเร่งรีบ เราก็เลือกได้เลยว่าจะให้ระบบโชว์เฉพาะเที่ยวบินแบบบินตรง ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง หรืองบมีจำกัด ก็ฟิลเตอร์ราคาได้ว่าไหวที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่
ถ้าผลที่แสดงออกมา เห้ยย ไม่ถูกใจ ราคาแพงจังวะไม่ไหว ลองกดเปลี่ยนแปลงการค้นหาดู บางทีขยับไปแค่วันสองวัน ราคาอาจจะถูกกว่าหลายบาทเลยทำเป็นเล่นไป
ใส่สิ่งที่ต้องการเรียบร้อย คราวนี้มาดูการแสดงผลกันละ สามารถเรียงลำดับได้หลายรูปแบบ เรียงจากเวลาออกเดินทางก็ได้ หรือราคาต่อคนก็ได้ อย่างตอนฝนไปเวียดนามอะ มันจะต้องนั่งรถบัสต่อไปต่อมาถูกมะ แล้วกว่าเราจะมาถึงสนามบินขากลับ ก็ต้องเป็นไฟลท์ตั้งแต่ 5 โมงเป็นต้นไป ตอนนั้นฝนก็เลือก filter ไฟลท์หลัง 5 โมงเย็นไปเลย สะดวกดี
พอเจอราคาที่ถูกใจ ไฟลท์ที่โดนใจแล้ว ให้ลองกด รายละเอียดเที่ยวบิน และรายละเอียดราคาดูก่อน จะมีดีเทล์เพิ่มเติมบอกเช่น คืนเงินได้ไหม รวมน้ำหนักกระเป๋าแล้วหรือยัง ใช้ระยะเวลาในการเดินทางเท่าไหร่ ที่นั่งกว้างไหม เผื่อใครตัวสูง เดินทางไกล อาจจะต้องการที่นั่งที่มันกว้างหน่อยอ่ะเนอะ ในหน้านี้ก็ตรวจสอบได้ทุกอย่าง
เมื่อเลือกสายการบินได้แล้ว ให้กรอกรายละเอียดของผู้ติดต่อ (ยังไม่ใช่ผู้โดยสารที่จะเดินทางนะ) เป็นช่องทางการติดต่อเราสำหรับการจองมีปัญหาอะไรแบบนั้นมากกว่า
หน้านี้แหละที่สำคัญ ใส่ชื่อผู้โดยสาร สำคัญมากกกกก อย่าพิมพ์ผิดนะเด้อออ บางสารการบินเคร่งๆหน่อย ถ้าชื่อไม่ตรงนี้อาจจะไม่ให้ขึ้นเลยนะ และอย่าลืม หากสายการบินนั้นไม่มีน้ำหนักกระเป๋าให้ ถ้าต้องการโหลดกระเป๋า อย่าลืมซื้อเพิ่มด้วยนะคะ ไปซื้อข้างหน้าเคาน์เตอร์แพงกว่านี้หลายบาท
ตรวจสอบรายละเอียด ราคาอะไรเรียบร้อย กดดำเนินการต่อ หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการจ่ายเงินละ เหมือนการซื้อของออนไลน์ทั่วไป ฝนขอข้ามไปนะคะ
เมื่อเราจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว จะมีตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ และใบเสร็จส่งมาให้เราทางอีเมล์ ให้ตรวจสอบไฟลท์ วันที่เดินทาง และชื่อผู้โดยสารอีกรอบ ซึ่งตั๋วอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถใช้ได้ 2 รูปแบบคือ ปริ้นแบบนี้ผ่านทางอีเมล์ หรือถ้าเปิดผ่าน app traveloka เราสามารถแสดงตั๋วในมือถือให้กับเคาน์เตอร์ที่สายการบินได้เลย โดยใช้รหัสการจองสายการบิน
วิธีการจองที่พัก
จริงๆขั้นตอนการจองค่อนข้างคล้ายกับการจองตั๋วเครื่องบินนะ แต่การจองที่พักดีงามตรงที่ ถ้าสมมติเราไปกันหลายๆคน หลายๆครอบครัว เราไม่ต้องมานั่งจองทีละห้องๆ ด้านขวาเราสามารถใส่ได้เลยว่าไปทั้งหมดกี่คน และต้องการกี่ห้อง
สามารถ filter ได้หลากหลายสิ่งเช่นกัน เช่น เอาเฉพาะที่เป็นวิลล่า หรือเดือนนี้ฉันรวยยยย ฉันต้องการที่พักแบบหรูๆ ราคาขั้นต่ำ 5,000 บาท ก็ใส่เข้าไปค่าาาา หรือถ้าเราเอารถมาด้วย เราต้องการที่พักที่มีที่จอดรถ ก็ติ๊กมันเข้าไปค่าาาา
ถ้าเราคลิ๊กเข้าไปดูโรงแรม จะเห็นรายละเอียดของโรงแรมนั้นๆ แต่ที่ฝนชอบคือจะสรุปมาให้เลยว่าโรงแรมที่เราคลิ๊กเลย อยู่ใกล้กับอะไรบ้าง คือบางทีตอนดึกๆ เราก็มีฟีลที่อยากจะออกมาเดินถนนคนเดินไรเงี้ยเนอะ ไปพักโรงแรมโน่นนนนน ห่างไป 20 กิโลก็ไม่ไหวไหมวะ อันนี้สะดวกดีมากๆ
ราคาห้องพักก็ดูให้ดี หนึ่งโรงแรมมีห้องพักให้เลือกหลายแบบ เตียงเดี่ยว เตียงคู่ กดดูตรงรายละเอียด ชอบอันไหนก็เลือกอันนั้น
เลือกได้แล้วก็กดดำเนินการ อ่านรายละเอียดและตรวจสอบราคาอีกที ถ้าใครมีคำขอเพิ่มเติม เช่น ขอห้องที่เห็นวิวทะเล หรือขอเตียงเดี่ยว ให้กรอกไปในช่องสีแดงได้เลย (แต่บางคำขอ โรงแรมอาจจะไม่สามารถการันตีได้ ว่าจะได้ชัวร์ๆนะ ตอนนั้นที่ฝนไปเวียดนามคือขอเตียงเดี่ยวใหญ่ และขอหลังที่ติดริมทะเลที่สุด)
สบายๆไม่ต้องพกตั๋ว แค่มี App Traveloka
ชีวิตยิ่งมายิ่งสะดวกสบายเวอะเห้ยยยย ถึงยุคที่ไม่ต้องปริ้น ไม่ต้องเอาตั๋วไปทำอะไรทั้งสิ้นแล้ว ทุกอย่างแมร่งอยู่ในมือถือหมด Traveloka ก็เช่นกัน
Android : ดาวน์โหลดได้ที่นี่
IOS : ดาวน์โหลดได้ที่นี่
ถ้าเราจ่ายเงินอะไรเรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่การจองของฉัน ก็จะเห็นว่าอันไหนที่จองเรียบร้อย ก็จะขึ้นว่าออกตั๋วอิเล็กทรอนิกส์แล้ว คลิ๊กเข้าไปจ้าาา
เนี่ยยยย แค่นี้จบ นี่คือตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ สามารถโชว์อันนี้ให้กับพนักงานที่เคาน์เตอร์สายการบินได้เลย ง่ายดายอะไรขนาดเน้
อะไรก็หาซื้อได้ ยกเว้นเทคนิค !
จากประสบการณ์ตรงอ่ะเนอะะะ ฝนว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะมีประโยชน์กับทุกๆคนในการเดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม อยากให้อ่านกันไว้ เพราะมันเวิร์คจริงๆ
Tips 1 : โปรโมชั่นในเว็บและแอพ ไม่เหมือนกัน !
โปรโมชั่นบางอัน สามารถใช้ได้ทั้งสองช่องทาง แต่บางอันก็ใช้ได้เฉพาะบางช่องทางเท่านั้น อันไหนถูกกว่าก็เอาอันนั้น ตรวจสอบราคา เช็คความคุ้มค่าให้ดีๆ อันที่มันจำกัด จะมีเขียนเลยว่าเฉพาะการจองผ่านแอพเท่านั้น แล้วคุณจะได้ตั๋วที่ถูกที่สุด !
Tips 2 : ผู้ช่วยส่วนตัว ไม่รู้อะไรก็ถาม
บอกเลยว่าตอนฝนจองตั๋วเนี่ย คุยกับพนักงานในนี้บ่อยมาก 5555 ด้วยความที่ว่าเราเป็นคนไม่ค่อยได้ขึ้นเครื่องบินอ่ะนะ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องว่า เอ้อมันเอาขึ้นเครื่องได้กี่กิโล ต้องซื้อเพิ่มไหมอะไรยังไง ไม่รู้ก็ถามสิฮะ เป็นตอบแบบ real time ตอบไว ตอบดี สามารถ cap ภาพ ส่งลิ้งค์ส่งอะไรได้ให้เค้าตรวจสอบ ดีงาม สบายใจไปหลายเปราะ
Tips 3 : เปลี่ยนตารางบิน, คืนเงินง่ายๆ
ไม่ต้องไปติดต่อสารการบินให้เสียเวลา จะเปลี่ยนตารางบิน ขอคืนเงินได้หมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาจมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันแต่ละสายการบิน ยังไม่ต้องตกใจว่ากดเปลี่ยนสายการบินปุ๊บ จะเสียเงินเลยหรือเปล่า สบายใจได้ เรายังไม่ต้องจ่ายเงินในขั้นตอนนี้
อย่างตอนนั้นเราจะเปลี่ยนสารการบิน เราก็กดเปลี่ยนสารการบิน เลือกวันเดินทางหรือเวลาที่ต้องการ รอสักแปบ จะมีเมล์จาก traveloka เข้ามา สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด ว่าต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ ถ้าโอเคแล้วก็ค่อยดำเนินการต่อ
Tips 4 : ชัวร์ไว้ก่อน แม่สอนไว้
ถึงแม้เค้าจะอำนวยความสะดวกสบายมาด้วยตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ แต่ถูกสอนมาว่ามีแผนสำรอง ย่อมดีกว่าเสมอ เรามีตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ติดตัวแล้ว แล้วถ้าลืมมือถือ ก็ชิบหายน่ะสิ เราเลยปริ้นทั้งตั๋ว และใบเสร็จการชำระเงิน อย่างละ 2 ชุด ให้ทุกคนติดตัวไว้ (ใส่กระเป๋าติดตัว 1 ชุด และใส่ในกระเป๋าเดินทางอีก 1 ชุด) อย่างน้อยถ้ามือถือหาย ลืมมือถือ เราก็ยังมีเอกสารติดตัวกันอยู่ทุกคน
Tips 5 : คนอย่างฝน ไม่เคยพลาด
บางทีก็คิดนะ เอ๊ะกูเป็นโรคจิตปะวะ 5555 ทำไมทำอะไรแล้วต้องมี Plan B ตลอด ไม่รู้ดิ ตลอดระยะเวลาการทำงานมา เราว่าการเตรียมการสำรองนี่เป็นอะไรที่โคตรเวิร์คอะ เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน เราไม่ตกใจ ไม่ลก และก็หาวิธีแก้ไขได้ตลอด
นอกจากในแอพจะมีสถานะแจ้งว่ายืนยันการจองเรียบร้อยแล้ว เราก็ขอ double check ด้วยการส่งอีเมล์หาโรงแรม ซึ่งอีเมล์ส่วนใหญ่ก็หาไม่ยากมะะะ เค้าก็ต้องมีเว็บไซต์ มีเฟสบุ๊ค มีอะไรก็ว่าไป ต้องเข้าใจก่อนว่าคนเวียดนามไม่ใช่ว่าทุกคนจะพูดภาษาอังกฤษได้นะ ไม่ได้เหมือนสิงคโปร์ แต่การติดต่อผ่านอีเมล์แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ต้องคุยภาษาอังกฤษรู้เรื่อง เราเลยขอ double check ว่าเค้าได้รับการจองของเราผ่าน Traveloka แล้วหรือยัง และย้ำ request ที่เราเคยขอเค้าไป
ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายนะ เอาที่มันเข้าใจได้อ่ะ 5555 แล้วก็ถามเรื่องเที่ยวกับเค้าซะเลย ต้องเข้าใจว่านี่เราไปต่างถิ่นต่างเมือง ถ้าเที่ยวในไทยคงไม่ต้อง double check อะไรขนาดนี้ แต่นี่ต่างประเทศอะ ภาษาเวียดนามก็พูดไม่ได้ ไม่รู้ว่ะ ขอชัวร์ไว้ก่อนดีกว่า เป็นคนเซฟๆ
เชื่อว่าคนที่ยังไม่เคย (หรือเคยแล้ว) คงได้รู้วิธีการจองและเทคนิคต่างๆที่ฝนตั้งใจนำมาฝากนะคะ ฝนว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการเดินทางคือประสบการณ์ระหว่างทาง ทั้งประสบการณ์ที่ดี และประสบการณ์ที่พลาด บางครั้งมันกลายมาเป็นการบอกเล่า การแชร์ประสบการณ์ และแชร์เทคนิคต่างๆ ซึ่งถ้าคนเข้ามาอ่านก็สามารถนำไปปรับใช้ เพื่อที่จะเที่ยวได้อย่างสนุก (และปลอดภัย) มากขึ้นนะคะ จุ๊ฟๆ
อ่านทริปเวียดนามเรื่องอื่นๆได้ที่
- รีวิว เวียดนาม ดาลัต มุยเน่ กันยายน 2017 > คลิ๊ก
- 6 Tips ที่ต้องรู้ ก่อนไปเวียดนาม > คลิ๊ก
- รีวิวที่พักดาลัต + มุยเน่ (Tulip II + Coco beach resort) > คลิ๊ก
ติดตามกันได้ที่
Blog : https://reviewfollowme.wordpress.com/
Facebook Page : https://www.facebook.com/reviewfollowme