ทริปเหนือ 6 วัน น่าน แพร่ พะเยา
ลานานยังกะไปเกาหลี
ฮัลโหลววววว ห่างหายจากการเขียนบลอคไปนานอีกละ คราวนี้ขอกลับมาแบบจัดเต็ม เพราะเรียบเรียงข้อมูลอยู่นานมาก นี่กลางเดือนกุมภา ฉันหนีไปขึ้นเหนือมา 6 วัน ให้ตายสิ ลายังกับไปญี่ปุ่น เหนือมันมีอะไรให้เที่ยวขนาดนั้น แต่บอกเลยว่าขึ้นเหนือนี่ไม่ใช่เชียงราย เชียงใหม่สถานที่ยอดฮิตนะจ้ะ แต่เป็น “น่าน แพร่ พะเยา” ไปลุยกันเหอะ
แอบบอกนิดนึงว่าทริปนี้ แม่เป็นคนวางแผนทั้งหมด นางเก่งนะ ใครสนใจติดต่อให้นางวางแผนทัวร์ให้ หลังไมค์มาได้ 5555 ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขอพูดไว้ตอน Part สุดท้ายเลยนะคะ
DAY 1 PART 1 (18 FEBRUARY 2016)
ออกเดินทางด้วยสารการบินนกแอร์เวลา 9.30 น. คนละประมาณ 900 กว่าบาท คือจองล่วงหน้านานมากกกก แม่จองล่วงหน้าเกือบปี เพื่อจะได้เที่ยวบินราคาถูกหน่อย นี่เป็นครั้งแรกที่ฝนนั่งนกแอร์ คือขึ้นเหนือใช่ปะ เครื่องมันก็เล็กเว้ย แต่ไม่คิดว่ามันจะเล็กขนาดนี้อ่ะ เล็กมาก คือนี่ขนาดสูงไม่ถึง 160 นั่งยังลำบาก โคตรสงสารคนสูงๆเลยอ่ะ อีกนิดเกือบเอาเท้าตัวเองพันคอละ
ทริปนี้ไม่ได้เที่ยวกันแบบกากๆนะจ้ะ เพราะมากันทั้งหมด 6 คน จะให้ไปโบกรถแดงมันก็ไม่ใช่ปะ เพราะอากงก็มาด้วย อากงก็แก่แล้ว ไม่อยากพามาลำบาก (หรอออ ??55555) แม่เลยจองรถตู้ไว้ ชื่อพี่ติ ใครขึ้นเหนือ ติดต่อนางได้นะ นางบริการดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอย เอาไม้ยามกไป 50 ตัว คือพูดจาดี และอุปกรณ์ครบ คือ เอามือถือไรไป นางมีที่ชาร์จให้หมดอ่ะ มีปลั๊กสามตาบนรถ ชาร์จจนสบายใจไปเลย พี่แกขับรถดี แนะนำดี ไม่ขับหวาดเสียว อากงนี่เป็นปลื้มอย่างแรง และรถก็สะอาดประหนึ่งว่าพึ่งออกมาจากโชว์รูม
หอศิลป์ริมน่าน 11.00 น.
ขับเลยออกมาจากสนามบินน่านไม่นาน ก็แวะที่เที่ยวแรกกันเลยกับ “หอศิลป์ริมน่าน” ใครที่ชอบศิลปะน่าจะชอบที่นี่มากๆ อ้อ ลืมบอกไป อากาศตอนที่ไปนี่ ตอนกลางวันน่าจะประมาณ 25 องศาได้ คือแดดร้อน แต่ลมเย็นนิดๆ
ค่าเข้าหอศิลป์คนละ 20 บาท และสามารถหยิบโปสการ์ดได้คนละ 1 ใบ
เข้าไปก็จะเจอกับงานศิลปะมากมาย ทั้งภาพวาด ประติมากรรม มุมถ่ายรูปสวยๆมีเยอะเหมือนกันค่ะ และอากาศข้างในคือดีมาก ไม่ได้เปิดแอร์นะ แต่ด้วยเป็นบ้านปูนผสมไม้ หน้าต่างเปิดโล่ง ทำให้ที่นี่เป็นจุดพักผ่อนได้ดีอีกจุดเลย
พอเดินดูศิลปะข้างในอย่างจุใจแล้ว เราออกมาดูข้างนอกกันต่อค่ะ ด้านนอกจะมีเหมือนเรือนไม้ไทยอยู่ คือ “นิทรรศการภาพถ่าย จิตรกรรมฝาผนังเมืองน่าน” จุดนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านในนะคะ ก็ตามชื่อเลย ด้านในเป็นจิตรกรรมฝาผนัง มีแกะสลัก สวยงามเลยแหละ โซนนี้จะอยู่โซนใต้ดิน เข้าไปด้านในรู้สึกสงบๆ หลีกหนีจากความวุ่นวายได้ดี
นี่คือโปสการ์ดที่หยิบได้ฟรีคนละ 1 แผ่น น่าจะมีให้เลือกทั้งหมดเกือบ 10 แบบได้มั้ง ส่วนใหญ่เป็นศิลปะที่ดังในเมืองน่านนี่แหละ
ก่อนกลับขอยืนชมวิวเขียวๆ สูดอากาศให้เต็มปอดสักพัก
วัดหนองบัว – ชุมชนไทยลื้อ 12.00 น.
ในละแวกเดียวกัน ขับไปไม่ไกลเท่าไหร่ ก็แวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกันสักหน่อย
ชะแว๊บบบบบ เดินเข้าไป เหยยยสวยมาก ประติมากรรมเลิศเลอ ตามสไตล์ประเทศไทยบ้านเรา สิ่งหนึ่งที่ชอบเวลาเข้าวัดคือ เย็นสบายดีเนอะ เหมือนการก่อสร้างวัดเกือบทุกวัด เค้าวางโครงสร้างมาหมดแล้วว่าต้องเป็นที่โล่ง สบาย ลมถ่ายเทได้ดี
ไหว้พระ สักการะเรียบร้อย จุดพีคมันอยู่ด้านนอก เดินมาด้านหลังวัดนิดนึงจะเจอดินแดนถิ่นไทลื้อ
มุมถ่ายรูปเยอะมากกก สวยมาก แล้วคือ ไม่มีคนเลยจ้าาาา นี่คือข้อดีของการมาเที่ยวช่วงที่เป็น low season สินะ คือมันอาจจะไม่ได้หนาวเหมือนช่วงปลายปีก็จริง แต่บ้านฝนโอเคมากกับการเที่ยวช่วง low season คนน้อย ไม่ต้องแย่งกันอยู่ แย่งกันกิน ไม่ต้องต่อแถว ไม่ต้องรีบถ่ายรูปรีบออกมา คือใช้เวลากับแต่ละสถานที่ได้มากขึ้น ฟินดีจริงๆ
สามสาว คนกลางนี่แม่นะ ไม่ใช่พี่สาวนะแกรรรร
ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ 13.00 น.
หลังจากที่ถ่ายรูปอยู่ที่ชุมชนไทยลื้อนานมาก ยังกับว่าวันนี้ไม่มีที่เที่ยวอื่นแล้ว 5555 ไปกินข้าวเหอะ บ่ายโมงละ อาหารกลางวันขอฝากท้องไว้ที่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เหยยย แค่ชื่อนี่ก็ ฮอร์โมนฮิปสเตอร์หลั่งเลยว่ะ 5555
นอกจากเป็นร้านอาหารแล้ว ที่นี่เป็นโฮมสเตย์ด้วยนะ แต่เราไม่ได้พักที่นี่ จุดหมายปลายทางเราคือนอนที่บ่อเกลือจ้า
บ้านน่ารักอ่ะแกร ฝากถึงสามีในอนาคต ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีไหมว่า “เตรงๆ เค้าอยากได้บ้านแบบนี้นะ ขอสวนกว้างๆ ใหญ่ๆ ต้นไม้เยอะๆ บ้านไม่ต้องใหญ่มาก เค้าไม่ซีนะเตง”
เดินมาด้านหลังที่เป็นโซนกินข้าว เหมือนโลกหยุดหมุนเลยอ่ะ ตอนอยู่กรุงเทพ มองไปทางไหนก็เจอแต่แสงไฟกับตึก แต่อันนี้มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา เจอภูเขาและต้นไม้ อย่างว่าเนอะ คนกรุงอยากออกนอกเมือง คนนอกเมืองอยากเข้ามาอยู่ในกรุง มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่พอใจในสิ่งที่มี
เห็นบ้านใหญ่ๆนั่นไหม นั่นแหละโซนกินข้าว นี่ขนาดมา low season นะ คนเยอะพอตัวเลย น่าจะด้วยว่ามันไม่ไกลจากเมืองมาก ยังไม่ได้ขึ้นเขาไปไกล ยังมาง่ายๆอยู่ แต่เมื่อมาถึงขนาดนี้ เราต้องกินด้านนอกจ้า เอาให้หญ้าเข้าปอดกันเลยทีเดียว ชื่อร้านก็บอกเนอะว่าเห็ด เพราะฉะนั้นเมนูที่เราสั่งส่วนใหญ่จะเป็นเมนูเห็ดทั้งนั้น พิซซ่าเห็ดเอย แกงเห็ดเอย แต่ไม่ถึงขั้นมังสวิรัตินะ ยังมีหมูมีไก่ให้กินอยู่ สั่งเสร็จก็ขอถ่ายรูประหว่างรออาหาร
อยากเป็นฮิปสเตอร์ แต่อี๊กับแม่ยืนบังวิวเค้าทำไม !!
สถานที่ยังงี้มันต้องกระโดดว่ะ มีใบไม้ปลิวๆหล่นลงมา นึกว่าอยู่เกาหลี
มาดูเมนูที่สั่งทั้งหมดกันดีกว่า ด้วยความสัตย์จริง จำชื่อเมนูไม่ได้ ถ้าอยากกินตามนี้ก็เซฟรูปไปให้ร้านดูนะ 5555 รสชาติใช้ได้เลย แต่ก็ไม่ได้แบบ โอ้โหหห อร่อยมากกก ณ จุดๆนี้ คือก็ทั่วๆไปแหละ แต่ให้คะแนนเต็มสำหรับบรรยากาศแล้วกัน
จานนี้พิซซ่าเห็ด หูยยย อร่อยใช้ได้เลยอ่ะ ชีสกำลังดี แป้งกำลังดี
ดูความเยิ้มกันอีกรอบนะคะ ณณณณณ จุดดดดดจุดเน้ (พูดแบบอีแหนดจากไดอารี่ตุ๊ดซี่)
กินอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว อย่ารอช้าค่ะ เดินลงไปข้างล่างโลด ยังมีที่ให้เราเที่ยวอีกเยอะ ! ไฮไลท์ของด้านล่างคือวังศิลาแลงนั่นเอง !
ระหว่างทางเดินไปวังศิลาแลง จริงๆขับรถลงมาได้นะ แต่ถือว่าเดินย่อยแล้วกัน เดินจากร้านอาหารไปไม่ไกลค่ะ ได้ดูทุ่งนา ทุ่งหญ้า ภูเขา มองวิวแล้วเพลินมากๆ
เดินไปเดินมารู้สึกเหมือนเป็นแก๊งค์ทัวร์จีนยังไงก็ไม่รู้ 55555 งาน Production ต้องมา งานแอ๊บเผลอต้องมี
ความอนาถคือ กล้องยืมชาวบ้านเค้ามา แล้วเอามาประกอบกับไม้ selfie ของตัวเอง ซึ่งมันไม่แน่นอ่ะแก ก็ต้องหากระดาษมาแทรกๆให้มันแน่นอ่ะเนอะ มีแมงปอมาเกาะด้วยเห็นปะๆ
คนต่างจังหวัดคงเห็นวิวแบบนี้จนชิน คงเหมือนกับคนกรุงมั้ง ที่เห็นแสงสีจนเบื่อ บางทีสลับกันบ้างก็ดี 🙂
เดินมาเรื่อยๆจะมาเจอกับเขื่อน ก่อนที่เราจะเดินไปยังวังศิลาแลง
วังศิลาแลง (แกรนด์แคนยอนเมืองไทย)
ไกด์พร (แม่ชั้นเนี่ยละ) บอกว่า ที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแกรนด์แคนยอนเมืองไทย เหมือนตรงกลางมีน้ำกัดเซาะหิน เป็นยังไงเดี๋ยวไปดูกัน ระหว่างทางเดิน ไม่ลำบากค่ะ สบายมาก เป็นทางเดินดิน ทางราบ แต่ค่อยๆขึ้นไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมองเห็นลำน้ำ ภูเขาหินตลอดทาง
เดินเข้าไปไม่นานเจอแกรนด์แคนยอนละ
เดินต่อลงไปอีกนิดนึง จะมีเชือกให้พยุงตัวลงไป ฝนไม่ได้ลงไปตรงนี้ เพราะก่อนมา คุณแม่บรีฟว่าวันนี้สบายๆ นี่ก็ใส่กระโปรงมาเลยจ้าาาาาาา แต่ตรงนี้ลมเย็นมว๊ากกก ยืนอยู่ตรงนั้นกันประมาณครึ่งชม. ได้ ตอนที่ฝนไปเจอนักท่องเที่ยวอีกแค่ 5 คนเองค่ะ ฟินจริงๆ
ลำดวนผ้าทอ 14.30 น.
อย่าช้า เรายังมีอีกหลายจุด ลืมบอกไปว่าตอนที่ไปชุมชนไทยลื้อ ฝนซื้อเดรสมา 1 ตัว เป็นเหมือนเดรสชาวเขา 300 บาท นี่ก็ดีใจ รีบซื้อเลย พอมาร้านนี้ เหมือนกันเด๊ะ 180 จ้าาา เฮลโหลววว เพราะฉะนั้น ใครอยากซื้อเสื้อผ้าพื้นเมือง มาที่นี่โลดนะ มีทุกอย่าง เสื้อ กางเกง กระโปรง เดรส ที่นี่ราคาถูกที่สุดในจังหวัดแล้ว อย่าพลาดแบบเรานะเออ
มีร้านกาแฟน่ารักๆให้นั่งชิวๆ พักผ่อน บรรยากาศดีสมกับเป็นภาคเหนือจริงๆ
จัดนี้เริ่มร้อน ขอซื้อมะนาวน้ำผึ้งขึ้นมากินบนรถให้ชื่นใจหน่อย ใส่นมแมวด้วยอ่าาา ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ T_T
วัดปรางค์ ต้นดิกเดียม
ระหว่างทางมา แม่ก็เล่าให้ฟัง ว่าต้นเนี่ย ถ้าเราไปลูบต้นมัน ใบมันจะกระดิกๆ เหมือนมันจักจี๋อะไรประมาณนั้น ความตลกคือไรรู้ปะ พอไปถึงปุ๊บ แม่รีบลูบเลย แต่สิ่งที่นางรูปคือเสาปูนจ้าาาา คือนางคงรีบอ่ะไม่ได้ดู ทุกคนยืนขำอยู่นานมาก 555555 แล้วแม่ก็ลองลูบที่ต้นไม้จริงๆ มันดูยากมากอ่ะ เพราะลมพัดตลอดเวลา ไม่รู้ว่ามันจั๊กจี๋จริงๆหรือเปล่า เอาเป็นว่าจริงละกัน 5555
เข้าไปในวัด สักการะเล็กน้อย แล้วออกเดินทางต่อกันค่ะ
ถ้ามีคนถามว่า ชอบอะไรในการมาเที่ยวครั้งนี้มากที่สุด คงตอบว่าชอบวิวระหว่างทาง ปกติฝนจะเป็นคนหลับง่ายบนรถ แต่ด้วยทริปนี้มีภารกิจคือการเก็บภาพให้ได้มากที่สุด เพราะๆนานๆที ครอบครัวเราจะได้เที่ยวด้วยกันเยอะขนาดนี้ เลยนั่งข้างๆคนขับ หลับให้น้อยที่สุด เลยได้เห็นวิวระหว่างทางเนี่ยละ บางจุดก็เขียวจนน่าใจหาย บางจุดก็น้ำตาลเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย แต่สิ่งหนึ่งที่ดีมากๆเลยคือถนนดี และบ้านเมืองสะอาดมากๆ
ลานดูดาว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
นี่คือจุดประสงค์ที่มาที่น่านเว้ย ! คือการมาดูต้นชมพูภูคา นี่ก็จินตนาการไว้ว่ามาเป็นต้นใหญ่แน่ๆ แต่ระหว่างนั้นเราไปถ่ายรูปพญาเสือโคร่งกันก่อนดีกว่า ถึงจะมาหน้าที่มันไม่ได้บานเยอะมาก แต่ก็ถือว่าดีกว่าไม่เห็นเลยแล้วกัน และศาลาที่พักเนี่ย Feel เหมือนไปญี่ปุ่นชัดๆ (ไม่เคยไปนะ แต่มโนเอา 55555)
ที่ตรงนี้เป็นที่ที่เค้ากางเต๊นท์กันด้วยนะ เผื่อใครสนใจ แต่ด้วยมันไม่สูงมาก อากาศเลยอาจจะไม่ได้หนาวเท่าไหร่
มีน้อยดีกว่าไม่มี ถ้าเป็นหน้าหนาวนี่คงฟินมากๆ
อากงยืนทำอะไร 555555
ซูมเข้าไปใกล้ๆ ละลายหลังหนักๆสิ๊ เลนส์ wide ก็ทำได้ดีไม่เบา
เหมือนอยู่ญี่ปุ่นปะละ ทริปนี้นี่ มีรูปโปรไฟล์เปลี่ยนไปอีกสามปีได้มั้ง
ตอนแรกอ่ะ คือเราไม่รู้เว้ย ว่าอันเนี่ย ไม่ใช่ชมพูภูคา เราก็เออๆ มันเยอะดีเนอะ แล้วก็ถามแม่ แม่บอกเนี่ยมันพญาเสือโคร่ง อ้าววว แล้วชมพูภูคาที่เราตั้งใจมาดูกันละ อยู่ไหนอ่ะมัมมมม แม่พาเดินออกไปข้างนอก ก็เห็นป้ายนี้ เลยถามเจ้าหน้าที่ว่า ต้องเดินลงไปหรอคะ แล้วเค้าก็บอกว่าเปล่าครับ พร้อมชี้ไปที่ต้นไม้ข้างๆ นี่ก็เงยหน้าขึ้นไปดูแบบ slow motion แบบว่า มองขึ้นไปนี่กรูอึ้งแน่นอน
อึ้งจริงว่ะ 55555555555555555555 มีช่อเดียวววววววว เฮลโหลววว มัมมม เรามาถูกที่หรือเปล่า ทำไมเป็นงี้ เจ้าหน้าที่บอก นี่ยังดีนะ บางปีนี่ไม่มีเลยสักช่อ เค้าบอกมันบอกล่วงหน้าไม่ได้เลย ต้องแล้วแต่อากาศในปีนั้นๆ ถ้าปีไหนหนาวน้อย ก็เป็นยังงี้แหละ เหยยย แล้วถ้าคนจองตั๋วเครื่องบินมาเพื่อดูอันนี้ แล้วเห็นแบบนี้ล่ะแกรร เอาจริงๆ คือแค่ช่อเดียวมันก็สวยมากแล้ว ถ้าเต็มทั้งต้นดี สุดยอดแน่ๆ แต่ทีเสียดายคือ ไม่ได้เอาเลนส์ซูมมา ชั้นมีเลนส์ wide ชั้นจะซูมได้อย่างไรเล่า ถ่ายมาพอเป็นพิธีให้ช้ำใจ
จุดชมวิว 1715 16.45 น
พระอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้า อีกจุดหนึ่งที่คนอาจจะไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่ แต่ฝนว่าสวยไม่เบาเลยทีเดียว คือจุดชมวิว 1715 เป็นสถานที่ที่มีที่ยืนให้เล็กๆ ยืนรับลมชมวิว ดูพระอาทิตย์ตก มุมนี้ถ่ายมุมกว้างเก็บบรรยากาศข้างหลังได้ครบหมดเลย
บ่อเกลือวิวรีสอร์ท
ที่หลับนอนของเราในคืนนี้ (แหม่ พูดซะอีโรติก) คือบ่อเกลือวิวรีสอร์ท ก่อนหน้าที่เรามา 1 วัน พระเทพฯเพิ่งเสด็จมาพักค่ะ ถือว่าเป็นโชคดีของเราจริงๆ เจอดอกไม้ ของตกแต่งสวยมากๆเลย ตะวันเริ่มจะลับลงทุกทีๆ อากาศตอนนี้ดีมากๆเลยค่ะ น่าจะประมาณ 18 องศาได้ ระหว่างรอทำเรื่องเช็คอิน ก็ถ่ายรูปไปเพลินๆ
ตรงนี้จะเป็นโซนร้านอาหารค่ะ
ได้ข่าวมาว่าเจ้าของเป็นเชฟเลยนะ ทำของหวานอร่อย แต่เราพักอยู่ที่นี่ 2 คืน ไม่มีบุญกินเลย วันนึงหมด อีกวันก็มาไม่ทัน ชีวิต
เช็คอินเสร็จแล้ว เดินขึ้นไปที่พักกันเหอะ แม่เลือกบนสุดเลยจ้าาา อยากธรรมชาติไง บอกเลยเดินขึ้นไปจมูกบานได้เรื่องอยู่
วิวจากระเบียงห้อง
เปิดเข้ามา ผ่างงง !! ห้องดีงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เอาไปเลย 20/10 โอยยย ดีๆๆๆๆๆๆๆๆ
มีมุมโซฟา เผื่อใครอยากนอนอ่านหนังสือชิวๆ
มุมกาแฟ น้ำร้อน ผ้าเช็ดตัว
มาที่นี่ไม่ต้องเอาของอะไรมาเลยนะ อุปกรณ์มีให้ครบ สบู่ ยาสระผม ครีมนวด ยาสีฟัน พร้อมมากกก
ภายนอกบ้าน
ป่ะ เก็บของเสร็จแล้ว เราลงไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า ด้านซ้ายจะเป็นแปลงผักปลูกอะไรมากมายหลายสิ่ง เห็นภาพในห้อง ถ้าหน้าฝนโซนนี้นี่ เขียวสวยมากกกกก
[vimeo 158826440 w=1423 h=800]
ส่วนเรื่องอาหารขอเขียนไว้ตรงนี้นะคะ ไม่ได้ถ่ายภาพมา เพราะมันมืดมากก ไม่อยากใช้แฟลชด้วย เกรงใจโต๊ะอื่นเค้า เอาเป็นว่าอาหารดีงามมาก อร่อยมากๆ ให้เยอะมากๆ รวมอยู่ในแพคเกจที่ซื้อแล้ว คุ้มเว่อร์
Part 2 ต่อเร็วๆนี้ฮะ
Blog : https://reviewfollowme.wordpress.com/
Facebook Page : https://www.facebook.com/reviewfollowme